แอปพลิเคชันนี้มีเรื่องราวสั้น ๆ เกี่ยวกับการกำเนิดของลัทธิหัวรุนแรง
หัวรุนแรงคืออะไร ??
การพูดถึงความรุนแรงขอบเขตกว้างมาก คำว่าหัวรุนแรงไม่เพียง แต่ตั้งใจจะพูดคุยเกี่ยวกับความเข้าใจและทัศนคติในศาสนา แต่ยังพูดถึงอุดมการณ์ที่หยั่งรากลึกในบุคคลและกลุ่มคน ตัวอย่างเช่นทัศนคติที่รุนแรงในการรักประเทศชาติและรัฐอินโดนีเซียซึ่งแสดงออกมาในทัศนคติความรักชาติอันเป็นผลมาจากความรู้สึกที่ฝังอยู่ของลัทธินาซานัลในบุคคลและกลุ่มคน แน่นอนอนุมูลในการรักประเทศและรัฐไม่ผิดและไม่ใช่ปัญหาตราบใดที่มันไม่ได้เป็นอันตรายต่อผู้อื่น ในความเป็นจริงในฐานะประเทศอินโดนีเซียมันจะต้องมีความรุนแรงในการรักประเทศและรัฐ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ความรุนแรงมักจะเกี่ยวข้องกับการกระทำของความรุนแรงที่นำไปสู่ความหวาดกลัวโดยผู้คนจำนวนหนึ่งในนามของการป้องกันทางศาสนา สิ่งนี้เกิดจากปรากฏการณ์มากมายของเป้าหมายของการกระทำที่รุนแรงในรูปแบบของความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าวรรณกรรมเกี่ยวกับขบวนการ Radicalist ของอินโดนีเซียพบได้อย่างมากทั้งในรูปแบบของหนังสือและบทความที่หลวม สิ่งนี้เกิดจากปรากฏการณ์มากมายของเป้าหมายของการกระทำที่รุนแรงในรูปแบบของความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Ahmad Syafi'i Mufid สร้างความแตกต่างระหว่างลัทธิหัวรุนแรงทางศาสนาและการก่อการร้าย ในการก่อการร้ายมีความพยายามที่จะสร้างความกลัวความสยองขวัญหรือความโหดร้ายโดยบุคคลหรือกลุ่มในขณะที่หัวรุนแรงไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น ถึงกระนั้น Radicalism ก็มีศักยภาพที่จะทำให้เกิดการก่อการร้าย
Radicalism สามารถป้องกันได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการปลูกชาตินิยมผ่านการศึกษาความเป็นพลเมืองซึ่งกล่าวถึงการสังเกตทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นการพัฒนาสื่อการเรียนรู้โดยใช้สื่อการ์ตูนซึ่งกล่าวถึงความรู้ทางประวัติศาสตร์ของความสามัคคีของอิสลามที่สอนโดยนักบุญเช่น Sunan Kalijaga และ Sunan Bonang ที่เต็มไปด้วยเนื้อหาของความอดทนระหว่างชุมชนทางศาสนา สองเรื่องที่ยกมาในการ์ตูนเต็มไปด้วยการสนทนาที่เบาและน่าดึงดูดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้นักเรียนสนใจอ่านและไม่เบื่อ ด้วยเรื่องราวสองเรื่องที่เกิดขึ้นความหวังของเขาก็สามารถป้องกันความรุนแรงได้เช่นเดียวกับการส่งเสริมความรู้สึกของชาตินิยมและทัศนคติของความรักชาติของนักเรียน นักเรียนสามารถเข้าใจได้ว่าขบวนการ DI/TII เป็นขบวนการที่ไม่สอดคล้องกับหลักการทางวัฒนธรรมของสังคมอินโดนีเซียและตรงกันข้ามกับค่านิยมของ Pancasila รวมทั้งให้ความเข้าใจว่าศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่เต็มไปด้วยความสงบสุขและความสามัคคี